สู่อนาคตยั่งยืน‼️กรมปศุสัตว์เห็นชอบโครงการใหม่ อาหารสัตว์ ‘วัตถุดิบสีเขียว’ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม-พยุงราคาวัตถุดิบ
18 พ.ย. 2564 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า สภาวการณ์การผลิตสินค้าอาหาร และการค้าโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจปศุสัตว์และสัตว์น้ำต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยปัจจุบันตลาดในต่างประเทศมีนโยบายที่มุ่งเน้นไปในด้านการผลิตสินค้าที่ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเป็นเงื่อนไขการแข่งขันทางการค้าที่อยู่เหนือการแข่งขันด้านราคา เช่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักในการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทย ได้ออกมาตรการเกี่ยวกับสินค้ายั่งยืนอาทิ EU Green deal และ ESG: Environmental Social and Governance เป็นต้น
ขณะที่ภาคเอกชนมักจะเคลื่อนไหวและบังคับใช้มาตรฐานต่างๆ อย่างรวดเร็วกว่าภาครัฐ อาทิ Tesco และ Walmart ที่ได้ออกนโยบายเกี่ยวกับสินค้ายั่งยืน โดยจะตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้า เช่น พืชวัตถุดิบที่นำมาผลิตอาหารสัตว์จะต้องไม่มาจากการทำลายป่า เป็นต้น หากไทยไม่ปรับตัวในประเด็นนี้ให้ทันเวลา อุตสาหกรรมอาหารของไทยจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทันที
‘ที่ผ่านมา เรามีมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีและปลอดภัย (GAP) มีการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา และลดการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ป่า เช่น โครงการไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ ซึ่งรณรงค์ส่งเสริมกันมาโดยตลอด ดังนั้น การที่กรมปศุสัตว์เป็นผู้นำในประเด็นนี้และพร้อมที่จะเป็นแกนกลางของภาครัฐในการสนับสนุนส่งเสริมให้วัตถุดิบอาหารสัตว์เป็นวัตถุดิบสีเขียว ที่ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ว่าไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม’
ทั้งนี้ วัตถุดิบอาหารสัตว์ เป็นต้นทางของห่วงโซ่การผลิตอาหาร โดยสมาคมฯ จะดำเนินการร่วมกับกรมปศุสัตว์ เพื่อให้วัตถุดิบหลักทั้งสามชนิด ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าว และมันสำปะหลัง เข้าสู่ระบบสีเขียวทั้งหมด ภายใน 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2565-2570
นอกจากนี้ นายพรศิลป์ยังกล่าวถึง กรณีข้าวของชาวนาในขณะนี้ที่มีราคาตกต่ำ เนื่องจากส่งออกไม่ได้ สมาชิกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยมีการหารือร่วมกับภาครัฐและโรงสีมาระยะหนึ่งแล้ว และสมาคมพร้อมที่จะช่วยเหลือและยืนเคียงข้างชาวนา โดยทำการรับซื้อปลายข้าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนา และนำมาทดแทนปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งสมาชิกแต่ละบริษัทได้ติดต่อประสานความร่วมมือกับโรงสีข้าวแล้วหลายแห่ง
โครงการพัฒนาการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศให้เข้าสู่ระบบ “วัตถุดิบสีเขียว” จะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่การผลิต โดยต้องตระหนักเสมอว่า ต่อให้ผลิตสินค้าออกมาได้ในราคาถูกเพียงใด หากมีบางข้อต่อของห่วงโซ่ยังคงทำลายสิ่งแวดล้อมแล้ว สินค้านั้นก็ขายไม่ได้อยู่ดี
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล
www.naewna.com/local/614732
ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999
ช่องทำเกษตรอินทรีย์ https://bit.ly/เกษตรเพียวเพียว
ที่มา : เพจเกษตรนิวส์ ข่าวเกษตร