ปีนี้ปีทองของหอมแดงศรีสะเกษ แหล่งผลิตอันดับ 1 ภาคอีสาน แนะเกษตรกรรักษาคุณภาพ เฝ้าระวังโรคหอมจากสภาพอากาศแปรปรวน
09 พ.ย. 2563 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี (สศท.11) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์หอมแดง ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอันดับ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีเพาะปลูก 2563/64 มีเนื้อที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเนื่องจากปีที่แล้วราคาดี แต่ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 2,987 กิโลกรัม/ไร่ ลดลงจากปีที่แล้วผลผลิตอยู่ที่ 3,472 กิโลกรัม/ไร่ (ลดลง ร้อยละ 14) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุนังกาและพายุโมลาเบ ส่งผลให้ฝนตกชุก น้ำท่วมขังในพื้นที่ หอมแดงจึงชะงักการเจริญเติบโตต้นแคระแกรน หัวเล็ก ผลผลิตบางส่วนเสียหาย
ส่วนสถานการณ์ราคาหอมแดงที่เกษตรกรขายได้ สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาในทุกประเภท เนื่องจากผลผลิตในพื้นที่มีน้อย ตลาดต้องการมาก ประกอบกับหอมแดงจากภาคเหนือผลผลิตยังมีน้อย จึงนับว่าเป็นปีทองของเกษตรกร โดยราคา ณ 4 พฤศจิกายน 2563 หอมแดงสดแก่ (คละ) เฉลี่ย 30 บาท/กิโลกรัม สูงขึ้นจากปีที่แล้วที่มีราคาอยู่ที่ 18 บาท/กิโลกรัม หอมปึ่ง ซึ่งเป็นหอมแดงที่เก็บเกี่ยวและแขวนตากในโรงเก็บเป็นเวลาประมาณ 12 วัน เฉลี่ย 55 บาท/กิโลกรัม สูงขึ้นจากปีที่แล้วที่มีราคาอยู่ที่ 35 บาท/กิโลกรัม และหอมมัดจุกใหญ่ เฉลี่ย 80 บาท/กิโลกรัม สูงขึ้นจากปีที่แล้วที่มีราคาอยู่ที่ 55 บาท/กิโลกรัม
ทั้งนี้ แนะนำให้เกษตรกรควรเฝ้าระวังในเรื่องของสภาพอากาศ โดยเฉพาะปีนี้ พายุฝนค่อนข้างแปรปรวน เกษตรกรควรจัดทำร่องปลูกเพื่อระบายน้ำได้สะดวก ลดเกิดการเน่าเสียของหอมแดงและควรเฝ้าระวังหนอนกระทู้ ที่เคยระบาดในปี 2562 และโรคหอมเลื้อย ที่สามารถพบได้ในระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นและในสภาพอากาศร้อนจัด ความชื้นในอากาศน้อย
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์