ปฏิเสธไม่ได้ว่า Wi-Fi 6 และ 5G เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ เจ้าของผลิตภัณฑ์หลายรายต่างเริ่มพัฒนา และจัดจำหน่าย Access Point ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 ในขณะที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลกต่างก็เริ่มศึกษา และทดสอบ 5G กันแล้ว

นี่คือ 5 สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลิกโฉมระบบเครือข่ายไร้สายทั้ง 2 อย่างนี้

1. ทั้ง Wi-Fi 6 และ 5G ต่างถูกพัฒนาโดยองค์กร/หน่วยงานเดียวกัน และเป็นเทคโนโลยีที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน ส่งผลให้ในบางกรณีสามารถใช้เทคโนโลยีทั้งสองเพื่อให้ได้อัตราการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานแอปพลิเคชันยุคใหม่หรือ IoT ที่มีการเชื่อมต่อเป็นจำนวนมาก

2. Wi-Fi 6 ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานเป็นระบบเครือข่ายไร้สายภายในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่มีผู้ใช้จำนวนหนาแน่น เช่น สนามกีฬา คอนเสิร์ต หอประชุม หรืองานนิทรรศการ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว และมี Latency ต่ำ

3. ทั้ง Wi-Fi 6 และ 5G ต่างถูกเพิ่มขีดความสามารถ และความเร็วในการเชื่อมต่อ แต่สำหรับการใช้งานภายนอกอาคารนั้น 5G ยังคงรองรับการใช้งานบางประเภทได้ดีกว่า เช่น การใช้งานขณะที่ผู้ใช้มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไฟความเร็วสูงหรือนั่งรถบนทางด่วน เป็นต้น

4. Wi-Fi 6 และ 5G เหมาะสำหรับใช้ในหลายๆ อุตสาหกรรม รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่ระบบ IoT เป็นองค์ประกอบสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต สาธารณสุข พลังงาน โรงแรม และสถานศึกษา นอกจากนี้ ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้ AR และ VR อีกด้วย

5. Wi-Fi 6 จะเริ่มใช้งานเร็วกว่า 5G เล็กน้อย โดยคาดว่า Wi-Fi 6 จะเริ่มให้บริการในช่วงกลางปี 2019 นี้ และจะใช้งานอย่างแพร่หลายภายในปี 2022 ในขณะที่ 5G ยังต้องใช้เวลาในการวางระบบอีกสักระยะ และจะเริ่มให้บริการในเมืองใหญ่อย่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ประมาณปี 2021

ที่มา: techtalkthai.com