เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง ย้ำกักเก็บน้ำฝน 1-2 เดือนข้างหน้า สำรองไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง
21 ส.ค. 2562 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประชุมเตรียมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง 76 จังหวัด เพื่อรับฟังการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าดำเนินการอย่างไร น้ำที่ใช้อุปโภค-บริโภค และน้ำที่ใช้ด้านการเกษตรจะแก้ไขปัญหาอย่างไร รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น เพราะในพื้นที่จะต้องทราบปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน ประเทศไทยจะต้องแก้ปัญหาอีกมาก แต่การทำการเกษตรของไทย จะต้องพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก ดังนั้นจะต้องหารือว่าจะทำอย่างไรจะสามารถกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ได้ แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถเก็บน้ำฝนไว้ใช้ได้เท่าที่ควร ทั้งนี้รัฐบาลพยายามเร่งแก้ไขปัญหาและจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานที่ทำแผนงานเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ลงไปช่วยเหลือตามความจำเป็นเร่งด่วนของแต่ละพื้นที่
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เน้นย้ำให้จัดหาน้ำจากทุกแหล่งรองรับการใช้น้ำ ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ผันน้ำดิบเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปา ขุดลอกแหล่งน้ำ ตามธรรมชาติ ขุดเจาะและเป่าล้างบ่อบาดาล ควบคู่กับการจัดสรรน้ำสนับสนุนทุกพื้นที่เสี่ยงภัย มุ่งดูแลด้านน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลัก โดยจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน และจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง กรณีเกิดความเสียหายด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้จำแนกความเสียหาย ตามประเภทและช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พร้อมกำชับให้สร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะข้อมูลสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ มาตรการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้น้ำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งน้ำ
นอกจากนี้ ยังได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำไว้ล่วงหน้า เน้นการกักเก็บน้ำจากปริมาณฝนในช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้า เพื่อสำรองน้ำให้เพียงพอต่อการใช้น้ำในปี พ.ศ. 2563
ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์