ประชุมบอร์ดเฟคนิวส์นัดแรก-ตั้งคณะทำงาน-2-ชุด-ตอกย้ำมาตรฐานความเป็นกลาง

18 ก.พ. 2563 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประชุมบอร์ดเฟคนิวส์นัดแรก-ตั้งคณะทำงาน-2-ชุด-ตอกย้ำมาตรฐานความเป็นกลาง

บอร์ดประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต ขานรับแนวทางจาก ครม. ให้ทุกหน่วยงานรัฐแต่งตั้ง “ผู้แทนเข้าร้องทุกข์” กรณีพบผู้เผยแพร่เฟคนิวส์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร พร้อมไฟเขียวตั้งคณะทำงาน 2 ชุด ติดอาวุธทางปัญญาให้สังคมรู้เท่าทันเฟคนิวส์  และวิเคราะห์คัดเลือกข่าวปลอมส่งให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินประชาชน ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางการแต่งตั้ง “ผู้แทนเข้าร้องทุกข์” กล่าวโทษต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้เสียหาย หรือเป็นเจ้าของข้อมูลที่มีการนำไปบิดเบือนเป็นข่าวปลอม และเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต

โดยเป็นแนวทางการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 เรื่อง การสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center)  ซึ่งกำชับให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือแก่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อรับมือกับปัญหาการเผยแพร่ข่าวปลอมและการบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องต่าง ๆ ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชน รวมทั้งในบางกรณีกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ

สำหรับแนวทางการดำเนินงานตามมติ ครม. ดังกล่าว ประกอบด้วย

  1. ให้กระทรวงดิจิทัลฯ ประสานแจ้งมติ ครม. ให้ทุกหน่วยงาน (ระดับกรม) ดำเนินการในการแต่งตั้งผู้แทนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้เสียหายหรือเป็นเจ้าของข้อมูลที่มีการนำไปบิดเบือนเป็นข่าวปลอม และเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ดังกล่าว
  2. เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) มีความเป็นกลาง สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับต่อสาธารณชน และสามารถเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชนได้ จึงเห็นควรเสนอแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะทำงานด้านวิชาการการสร้างการรับรู้ โดยมี นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ เป็นประธานคณะทำงาน และมีนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นคณะทำงาน ให้ความรู้เชิงวิชาการ สร้างความตระหนักและการรับรู้เพื่อรู้เท่าทันเฟคนิวส์ และคณะทำงานวิเคราะห์และคัดเลือกข่าว ก่อนส่งให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) ดำเนินการต่อไป ซึ่งจะมีนายภุชพงค์ โนดไธสง  รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม  เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีผู้แทนจากองค์กรต่างๆ ร่วมเป็นคณะทำงาน ได้แก่ ผู้แทนจากกองทุนสื่อสร้างสรรค์, ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์, ข่าวจริงประเทศไทย, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นต้น

สำหรับคณะทำงานวิเคราะห์และคัดเลือกข่าว จะมีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินการวิเคราะห์ ตรวจสอบ เพื่อพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่เข้าข่ายข่าวปลอม, ประสานข้อมูลที่ผ่านการพิจารณาแล้วว่าเข้าข่ายข่าวปลอมให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมดำเนินการ, รายงานผลการดำเนินงานต่อ รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ และปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย

นอกจากนี้ในที่ประชุม ยังได้มีการนำเสนอรายงานสรุปผลการดำเนินงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ในส่วนการดำเนินการประชาสัมพันธ์ประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ว่า มีจำนวนเรื่องทั้งหมด 52 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 41 เรื่อง ข่าวจริง 10 เรื่อง บิดเบือน 1 เรื่อง

“กระทรวงดิจิทัลฯ ยังมีกระบวนการทำงานร่วมกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงฯ กับ ศปอส.ตร. ในกรณีที่ข่าวปลอมนั้นๆ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับหน่วยงาน สามารถรวบรวมข้อมูลและแจ้งต่อ ศปอส.ตร. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในทางคดีต่อไป” รมว.ดีอีเอสกล่าว

 

ดาวโหลดแอปพลิเคชัน เพื่อสะสมแต้มแลกของรางวัลแลกเลยไม่ต้องลุ้น
Android
IOS

บทความที่เกี่ยวข้อง

ลมหนาวระลอกใหม่มาแน่! 20 - 25 ธ.ค. นี้ ทั่วไทยอุณหภูมิลดลง 2 - 8 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยช่วงวันที่ 20 - 25 ธ.ค. 66 มวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนดูแลรักษ

อ่านบทความนี้

ย้ำเตือนประชาชน อย่าหลงกลตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ พบมูลค่าความเสียหายกว่า 50,000 ล้านบาท

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกรัฐบาล ย้ำเตือนประชาชน ตั้งสติ อย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ที่ใช้อุบายหลอกลวง สร้างความน่าเชื่อถือในหลายรูปแบบ แม้รัฐบาลได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่า

อ่านบทความนี้

เชิญมาเที่ยวงาน "เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2566" น้ำพระทัยสองพระมิ่งขวัญเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เปี่ยมล้นพระเมตตาผู้ประสบอุทกภัย

งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2566 สถานที่ใหม่ เดินทางสะดวกกว่าเดิม เดินทางมาเที่ยวงานสะดวกมาก ทั้งรถสาธารณะ และรถส่วนตัว ที่จอดรถกว้างขวาง ภายในงานติดแอร์ตลอดทั้งงาน ไม่ต้องกลัวร้อน กลัวฝน   งานเริ่มแ

อ่านบทความนี้