องคมนตรี ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าพรุควนเคร็ง ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบอัคคีภัย
นครศรีธรรมราช / เมืองนครศรีธรรมราช / ปากนคร / หมู่ 3 นางพระยา
วันนี้(21 ส.ค.62) เวลา 08.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็งจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้ประชุมรับฟังบรรยายสรุปติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาไฟป่าพรุควนเคร็ง จากผู้แทนหน่วยงาน ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันจังหวัดนครศรีธรรมราช(ส่วนหน้า) สถานีควบคุมไฟป่าพรุควนเคร็ง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
จากนั้นองคมนตรี ได้เชิญสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 500 ชุด มอบแก่ผู้ประสบอัคคีภัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดโพธาราม (วัดควนเคร็ง) ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชน
โอกาสนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น พร้อมทั้งขอให้ประชาชนได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ทัพภาคที่ 4 และทุกหน่วยงานได้ช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยความร่วมมือร่วมใจของจิตอาสาจากทุกภาคส่วนด้วย
สำหรับสถานการณ์ ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม เกิดในจุดเล็ก ๆ สามารถควบคุมได้ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 เนื่องจากสภาวะอากาศแห้งแล้ง ลมแรง ฝนทิ้งช่วง ทำให้น้ำใต้ดินลดระดับลง จึงเกิดไฟลุกไหม้ใน 2 ตำบลของอำเภอเชียรใหญ่ คือ หมู่ที่ 4, 7, 8 ตำบลการะเกด และพื้นที่หมู่ที่ 5, 8 ตำบลเขาพระบาท และเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเชื้อเพลิงกระจายกระโดดตามแรงลมลุกไหม้ติดไฟเพิ่ม อีก 5 จุด คือ พื้นที่หมู่ที่ 8 และหมู่ 12 ตำบลการะเกด หมู่ที่ 1 ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 11 ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชน ใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอชะอวด เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร และร่อนพิบูลย์ ราษฎรได้รับผลกระทบจากควันไฟ 23,723 คน เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน 1 ราย พื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ได้รับความเสียหาย 14,493 ไร่ จากพื้นที่ป่าพรุประมาณ 309,000 ไร่ เกษตรกรได้รับความเสียหาย 420 ราย ประชาชน 80 ราย ปัจจุบันเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติงานในพื้นที่และเฝ้าระวังการเกิดเหตุซ้ำ โดยกรมชลประทานยังคงใช้เครื่องสูบน้ำ จำนวน 26 เครื่องจาก 46 เครื่อง สูบน้ำจากแม่น้ำปากพนัง คลองชะอวด-แพรกเมือง และคลองบางตะเคร็ง ที่เชื่อมต่อจากทะเลน้อย เข้าสู่ป่าพรุเพื่อรักษาความชุ่มชื้น ป้องกันไม่ให้ไฟป่าประทุขึ้นมาอีก ..////