ยายหัวใจพันธุ์เกษตรทอผ้าไหมเลี้ยงสัตว์ครบวงจร ยายวิไล นามสวัสดิ์ อายุ 73 ปี บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 บ้านระงอล ต.ปราสาททอง อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ มีความสามารถในการทอผ้าไหมตั้งแต่วัยเด็ก และใช้เป็นอาชีพเสริมหลังจากเสร็จภารกิจทำนา ผ้าไหมแต่ละผืนของยายมีความปราณีตสวยงาม ความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ยายได้ถ่ายทอดวิชาสู่ลูกสาวคือ นางกรรณิกา สนธิละ เจ้าของผู้ผลิตชิ้นงานโฮลชมพู ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศมาแล้ว แต่อาชีพทอผ้าไหม เป็นอาชีพที่ยายรัก ถึงมีลูกหลานได้สืบสานต่อ แต่ความพยายามและประสบการณ์ในการทอผ้าไหม มากกว่า 50 ปี ยังไม่เคยหยุดนิ่ง ยายเรียนรู้การทอผ้าไหม โดยเอาสีจากธรรมชาติทั้งที่เป็น สีจากต้นไม้ชนิดต่างๆ การหมักโคลนผ้าแบบภูมิปัญญา ทั้งโคลนจากดอกบัว และโคลนจากต้นยูคาให้ได้สีต่างๆ มารังสรรค์ผ้าไหมจากสีธรรมชาติให้สวยงาม ตามฉบับสูตรของยาย ปัจจุบันถึงแม้อายุมากแล้ว แต่ก็ยังทอผ้าไหมด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักและผูกพัน นอกจากนี้ี ชีวิตประวันของยายไม่เคยหยุดนิ่ง ใช้เวลาว่างในการเลี้ยงโคขุน พันธุ์ต่างๆ โดยมีลูกหลานค่อยช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย ประสบการณ์การเลี้ยงโค ยายบอกจากความคิดส่วนตัว ยายเปรียบเทียบว่า เลี้ยงโคดีกว่าเลี้ยงหมู เพราะเราได้มูลจากวัวไปทำปุ๋ย ถึงเวลาให้อาหาร ก็ให้ไม่ยุ่งยาก มีต้นหญ้าที่ปลูกไว้ ข้างๆคอกวัว โดยสละที่นา ปลูกหญ้าไว้บางส่วน สามปีก็ไถกลบและปลูกหญ้าใหม่ เพราะหญ้าแตกกอ จะดูดซึมปุ๋ยไม่ได้ ในคอกวัวก็เลี้ยงไก่ ลูกไก่ก็ได้อาหารจากมูลวัว จะมีหนอนแมลงให้ลูกไก่ได้กินตลอด ส่วนปัญหายายบอกจะมีแต่พังพอน ที่จะมากินลูกไก่ แม้กระทั้งเป็ดที่เคยเลี้ยงไว้ ก็ยังเจอเจ้าพังพอนแอบมาเอาไปเลย นอกจากนี้ด้านการเพาะปลูกก็ยังมีพืชหลายอย่างจากสวนยาย ทั้งต้นยาง และไม้ยืนต้นชนิดอื่น นับเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง สำหรับคนขยันในชุมชนบ้านเรา "ยายนักสู้หัวใจพันธุ์เกษตร" ขอชื่นชม สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือแวะอุดหนุนผ้าไหมสวยๆของยาย ได้ที่เบอร์ 0881254637