วิธีตรวจสอบและป้องกันการถูกแฮกบัญชี Facebook
17 มิ.ย. 2563 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมFacebook ถูกใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร รูปภาพ และเหตุการณ์สำคัญต่างๆ กับเพื่อนในเครือข่ายสังคมออนไลน์ จากข้อมูลสถิติปี 2559 คนไทยใช้งาน Facebook เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 41 ล้านคน ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ทำให้ผู้ประสงค์ร้ายต้องการเข้ามาสวมรอยบัญชี Facebook เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ เช่น หลอกให้เพื่อนหรือญาติโอนเงินมาให้ ดังที่เคยปรากฎในข่าวมาแล้วก่อนหน้านี้
ความเสียหายเหล่านี้สามารถป้องกันได้หากเรารู้จักตรวจสอบว่าบัญชี Facebook กำลังถูกแฮกหรือไม่ เช่น ตรวจสอบการแจ้งเตือนว่ามีการล็อกอินจากอุปกรณ์หรือสถานที่อื่น โดยบทความนี้จะแนะนำวิธีการตรวจสอบดังกล่าว รวมถึงข้อแนะนำหากพบว่าถูกบัญชีถูกแฮก และวิธีการที่สามารถช่วยให้บัญชี Facebook มีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้นได้
บัญชี Facebook ถูกแฮกได้อย่างไร
การแฮกบัญชี Facebook นั้น โดยทั่วไปมักหมายถึงการที่บุคคลอื่นสามารถเข้าถึงบัญชี Facebook ของเจ้าของบัญชีได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจเกิดได้จาก
- การไปใช้อุปกรณ์ (คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์) ที่มีการล็อกอินบัญชี Facebook ค้างไว้
- ผู้ประสงค์ร้ายสามารถเดารหัสผ่านของบัญชี Facebook ได้
- ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของเว็บไซต์ปลอมที่ทำขึ้นมาเพื่อหลอกขโมยรหัสผ่าน
- เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกติดตั้งซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถในการขโมยรหัสผ่าน
จะทราบได้อย่างไรว่าบัญชี Facebook ถูกแฮก
Facebook มีกระบวนการตรวจสอบและป้องกันการเข้าใช้งานในลักษณะที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นการแฮกบัญชีได้ เช่น จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนว่ามีการล็อกอินจากอุปกรณ์ที่ไม่เคยถูกใช้ล็อกอินมาก่อนหน้านี้ หรือมีการล็อกอินจากต่างสถานที่ (เช่น คนละจังหวัดหรือคนละประเทศ) รวมถึงส่งอีเมลแจ้งเตือนและขอให้ยืนยันเมื่อมีการพยายามเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชี Facebook เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้สามารถช่วยให้เจ้าของบัญชีตรวจสอบและป้องกับความเสียหายได้ในระดับหนึ่ง การตรวจสอบว่าบัญชี Facebook ถูกแฮกหรือไม่ สามารถดูได้ทั้งจากการแจ้งเตือนการล็อกอิน และข้อมูลการล็อกอินบัญชี Facebook
การตรวจสอบการแจ้งเตือนเมื่อมีการล็อกอินบัญชี Facebook
- เมื่อมีการล็อกอินบัญชี Facebook จากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่ไม่เคยถูกใช้ในการล็อกอินบัญชี Facebook ก่อนหน้านี้ (Facebook เรียกอุปกรณ์เช่นนี้ว่าบราวเซอร์หรืออุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก) จะมีการแจ้งเตือนเพื่อยืนยันการล็อกอิน
- ในหน้าจอแจ้งเตือน ทาง Facebook จะขอให้ผู้ใช้ยืนยันว่าเป็นผู้ล็อกอินจริงโดบกดที่ปุ่ม “นี่คือฉันเอง” และจะบันทึกข้อมูลนี้ในระบบเพื่อจะได้ไม่ต้องถามอีกในภายหลัง แต่หากผู้ใช้ไม่ได้ล็อกอิน แสดงว่าอาจถูกแฮกบัญชี สามารถกดปุ่ม “นี่ไม่ใช่ฉัน” เพื่อระงับการล็อกอินนั้นและปกป้องบัญชีจากการถูกแฮกได้ นอกจากนี้ ทาง Facebook ยังมีการส่งอีเมลมาแจ้งผู้ใช้เมื่อพบการล็อกอินจากอุปกรณ์ที่ไม่เคยถูกใช้ในการล็อกอินบัญชี Facebook ดังแสดงในรูปที่ 2 ซึ่งลักษณะการทำงานจะเป็นแบบเดียวกับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Facebookการตรวจสอบข้อมูลการล็อกอินบัญชี Facebook
การตรวจสอบข้อมูลการล็อกอินบัญชี Facebook
หากต้องการตรวจสอบว่าปัจจุบันมีอุปกรณ์ใดบ้างที่ล็อกอินเข้าใช้งานบัญชี Facebook นี้อยู่ สามารถทำได้โดยการตรวจสอบข้อมูลการล็อกอิน ซึ่งจะแสดงรายชื่ออุปกรณ์ วันเวลา สถานที่ รวมถึงหมายเลขไอพีที่ใช้ล็อกอิน (ข้อมูลไอพีของอุปกรณ์ที่ล็อกอินจะปรากฏเฉพาะการตรวจสอบผ่านเว็บไซต์) ซึ่งข้อมูลนี้จะแสดงเฉพาะอุปกรณ์ที่ยังสามารถใช้เข้าถึงบัญชี Facebook นี้ได้ หากอุปกรณ์ใดที่มีการล็อกเอาท์ไปแล้วจะไม่ปรากฏในรายการนี้ สำหรับผู้ใช้ Facebook ผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถทำได้โดย
- เลือก สัญลักษณ์แถบเมนู
- เลือก ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
- เลือก การรักษาความปลอดภัย
- เลือก สถานที่ที่คุณเข้าสู่ระบบ เพื่อตรวจสอบประวัติการล็อกอิน
- หากพบการล็อกอินจากอุปกรณ์ที่น่าสงสัย เช่น พบรายการเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ที่เราไม่ได้ใช้งาน หรือ การใช้งาน Facebook จากสถานที่ที่เราไม่ได้ไป สามารถกดที่เครื่องหมายกากบาทหลังชื่ออุปกรณ์นั้นได้เพื่อเพื่อยุติการใช้งานอุปกรณ์นั้นกับบัญชี Facebook
อ่านเพิ่มเติม: คลิก
ที่มา: Thaicert