ถูกใจเกษตรกร กรมวิชาการเกษตรเปิดตัวของใหม่ งาแดง ‘อุบลราชธานี 3’ ให้ผลผลิตสูงมากถึง 200 กิโลกรัม/ไร่
14 ก.พ. 2565 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกรมวิชาการเกษตร ถอยพันธุ์งาป้ายแดง "อุบลราชธานี 3" ให้ผลผลิตสูงกว่า 200 กิโลกรัม/ไร่ ถูกใจเกษตรกร ให้ปริมาณน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสูงกว่า 46 เปอร์เซ็นต์ ชนะเลิศพันธุ์เดิมอุบลราชธานี 1 และ 2 แถมต้านทานแมลงศัตรูมวนฝิ่นสีเขียว สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรปลูกได้ตลอดปี
นางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า งาเป็นพืชไร่น้ำมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอุดมไปด้วยน้ำมันที่มีคุณภาพดีและมีแร่ธาตุ วิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์เกือบทุกชนิด รวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยชะลอวัย จึงมีการนำงาไปใช้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
โดยเกษตรกรจะปลูกเป็นพืชเสริมรายได้ก่อนหรือหลังพืชหลักทำให้พื้นที่ปลูกงาของเกษตรกรอยู่ในวงจำกัด และจากสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนส่งผลให้ผลผลิตงาบางปีเกิดความเสียหาย ได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ทำให้ผลผลิตงาไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศทั้งที่งาเป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นเพียง 90 วัน และต้องการการดูแลรักษาน้อย โดยเฉพาะบางปีงาเป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรสูงกว่าพืชหลัก
รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า งาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 3 มีลักษณะเด่น ให้ผลผลิตเฉลี่ยในแหล่งปลูกสำคัญที่จังหวัดเพชรบูรณ์และนครสวรรค์ จำนวน 216 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งสูงกว่างาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 1 ที่ให้ผลผลิต 192 กิโลกรัม/ไร่ และงาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 2 ให้ผลผลิต 206 กิโลกรัม/ไร่ และยังให้ปริมาณน้ำมันเฉลี่ยสูง 46.4%
รวมทั้งยังมีความต้านทานต่อการทำลายของศัตรูพืชมวนฝิ่นสีเขียว เหมาะสำหรับปลูกในแหล่งปลูกที่สำคัญและสภาพการผลิตพืชไร่ทั่วไป โดยเกษตรกรสามารถปลูกสร้างรายได้เสริมได้ตลอดทั้งปี
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล
https://www.ryt9.com/s/prg/3295178
ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999
ช่องทำเกษตรอินทรีย์ https://bit.ly/เกษตรเพียวเพียว
ที่มา : เกษตรนิวส์ ข่าวเกษตร