แนะนำที่กินหมู่บ้านเน็ตประชารัฐ (เขื่อนลำปาว)
.จังหวัด.TH
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนาม
สะพานแห่งนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2553 ว่า “สะพานเทพสุดา” ซึ่งหมายถึง สะพานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น)
และเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานเทพสุดาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 เวลา 09.00 น.ณ บริเวณเชิงสะพานเทพสุดา อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์
รวมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการสะพานเทพสุดา
สะพานเทพสุดา เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก เชื่อมอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว ระหว่างบ้านโนนวิเศษ(หมู่บ้านเน็ตประชารัฐ) ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
กับบริเวณเกาะมหาราชตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ มี2ช่องทางจราจร ความยาว2,040เมตรเริ่มก่อสร้างวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 แล้วเสร็จในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2553
ถือเป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
ขอบอกเล่าเรื่องราว“สะพานเทพสุดา” กันเสียก่อน พอได้ทราบความเป็นมา ของสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สะพานแห่งนี้ถือเป็นโครงข่ายเชื่อมโยง
เส้นทางคมนาคม จากจังหวัดอีสานเหนือ เช่น เลย อุดรธานี หนองคายฯ ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปยังจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นประตูสู่อินโดจีน รวมไปถึงการขนส่งผลผลิตทางเกษตรของชุมชนทั้งสองฝั่ง
การคมนาคมที่สะดวกขึ้นทั้งทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว ช่วยสร้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านการเกษตร ประมง ค้าขาย เเละการท่องเที่ยวฯ
ยามค่ำอาทิตย์อัสดงที่แหลมบ้านโนนวิเศษ ว่ากันว่าสวยงามยิ่งนัก จากร้านอาหารแพริมน้ำเขื่อนลำปาว เราจะมองเห็นสะพานเทพสุดา ที่ทอดยาวกับสายน้ำไปจนสุดตา
ลมธรรมชาติพัดไอเย็นปะทะผิวให้รู้สึกได้เกือบตลอดเวลา วิวที่นี่หลักล้านแต่ราคาอาหารหลักร้อย เชื่อเถอะครับ อ่านไม่ผิดแน่นอน..
ก่อนจะเป็นอาหารในจานก็ต้องพูดถึงวัตถุดิบ และความพิเศษของที่นี่ เราได้ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดกาฬสินธุ์ ว่า
“ปลานิลเเละกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์”เป็นสินค้ามาตรฐาน GAP* เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงได้รับการอบรมตามหลักวิชาการจนมีความเชี่ยวชาญและ
ที่นี่เป็นแหล่งผลิตกุ้งก้ามกรามแห่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยมีทรัพยากรพื้นฐานที่ดีคืออ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว
จุดเด่นของปลานิลและกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์คือ เนื้อแน่น รสหวานได้มาตรฐาน GAP ราคาไม่เเพงมีให้กินตลอดทั้งปี
และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาในกระชังท่าเรือภูสิงห์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเพาะเลี้ยงก็อยู่ติดกับที่นี่ จึงการันตีได้เลยว่าวัตถุดิบได้มาตรฐาน ปลอดภัยและสดมากๆ
เมนูแนะนำ อย่างเเรก แน่นอนว่าต้องเป็น“ส้มตำปลาร้า”เพราะปลาร้าจากเขื่อนลำปาว ถือว่ามีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมายาวนาน
มีความพิเศษเฉพาะถิ่น ทำส้มตำได้อร่อย รสเเซบ เรียกได้ว่าได้กลิ่นปลาร้าที่มาพร้อมกับจานส้มตำ ทำเอาน้ำลายสอกันเลยทีเดียว
ตามด้วยเมนูที่สอง “ปลาเผาเกลือ” เป็นปลานิลตัวโตเผาสุกโอบด้วยเกลือ กลิ่นหอมมาก มาพร้อมผักสดเป็นเครื่องเคียงในจานแบบจัดเต็ม และน้ำจิ้มรสเด็ด
ซึ่งที่นี่มีสองแบบ คือน้ำจิ้มเเจ่วปลาร้าและน้ำจิ้มเผ็ดเปรี้ยวหวาน ให้เราเลือกทานตามความถนัด
เมนูที่สาม เเน่นอน ซิกเนเจอร์ของร้าน “กุ้งเผา”กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ ตัวพอดีทาน ปรุงใหม่ๆเนื้อเเน่น หวานในตัว เกินคำบรรยาย สมคำร่ำลือมาก น้ำจิ้มรสเด็ด
ถ้าเป็นวลีฮิต #แม่ฉันต้องได้กินกุ้ง นี่หละใช่เลย ขอให้นึกถึงที่นี่ แหลมบ้านโนนวิเศษ สะพานเทพสุดา จังหวัดกาฬสินธุ์ เชื่อว่าทุกท่านไม่ผิดหวังเเน่นอน
เมนูที่สี่ “ยำรวมมิตรลำปาว” ยำรวมมิตรของที่นี่เขาจะประยุกต์วัตถุดิบท้องถิ่นเช่นกุ้ง หอย ปลา บวกกับวัตถุดิบจากทะเล เช่น ปลาหมึกฯ ทำออกมารสชาติค่อนข้างดี
อร่อย มีเอกลักษณ์เฉพาะ เผ็ด เปรี้ยว หวาน (เเต่เราสั่งเผ็ดน้อย)
เมนูปิดท้าย เมนูที่ห้า “ข้าวผัดรวมมิตร” จานขนาดกลาง ผัดมาร้อนๆกลิ่นข้าวหอมฉุย กุ้ง หมึก มาเต็ม ได้เยอะมากๆเมื่อเทียบกับราคาถือว่าคุ้ม
ส่วนของหวานนั้น ท่านไม่ต้องห่วงตลอดเวลาที่รับประทานอาหารอยู่นั้น จะมีชาวบ้านนำสินค้าเกษตร จำพวกผลไม้ในท้องถิ่น เช่น ถั่วต้ม ข้าวโพดต้ม มะม่วง มาเร่ขาย
ถึงบริเวณริมเเพที่นั่งอยู่ เเม้เเต่รถขายไอติมก็ยังมี ช่วยอุดหนุนชาวบ้านที่นี่ได้อีกทาง
ร้านอาหารแพริมน้ำเขื่อนลำปาวมีผู้ประกอบการเยอะผู้เขียนจึงไม่ได้เฉพาะเจาะจงร้านใดร้านหนึ่งในส่วนนี้ เพราะป้าเเม่ครัวบอกกับพวกเราว่า “ร้านแถวนี้เรารู้จักกันหมดถ้อยทีถ้อยอาศัย
เมื่อร้านไหนเต็มก็จะเเนะนำให้ไปอีกร้านซึ่งคงมาตรฐานเดียวกัน ไม่เอาเปรียบลูกค้า เขาจะได้กลับมาเที่ยวอีก”ประโยคนี้โดนใจมากๆครับ
สนนราคาอาหาร อาหารมื้อนี้ ส้มตำปลาร้า 50 บาท
ปลาเผาเกลือไซส์ใหญ่ 250 บาท
กุ้งเผา 1 กิโลกรัม 450 บาท
ยำรวมมิตรลำปาวจานใหญ่ 120 บาท
ข้าวผัดรวมมิตรจานกลาง 100 บาท
น้ำเปล่า2ขวดใหญ่ 40 บาท
น้ำเเข็ง 20 บาท
รวม 1,030 บาท
ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 3 เฉลี่ยเเล้ว คนละ 206 บาท อิ่มและคุ้มมากๆ ทริปนี้เราพาเด็กๆมาด้วย เพื่อเรียนรู้ เทคนิคการถ่ายภาพจากกล้องมือถือราคาหลักพัน
ภาพทั้งหมดในบทความนี้ จึงเป็นภาพจากกล้องมือถือ เเละตกเเต่งภาพด้วย ฟรีโปรแกรม Snapseed แอปพลิเคชันใน Google Play และ IOS เมื่อฝึกทำบ่อยๆ
ก็จะเกิดความชำนาญเเละเป็นทักษะติดตัว ถือว่าเป็นโปรแกรมใช้ง่าย เเละไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
วันฟ้าครึ้มฝนปรอยๆพอได้กลิ่นฝน ต้นเดือนสิงหาคม เราไม่ได้ภาพท้องฟ้าสดใส ที่สวยงามมากนัก แต่ก็ไม่ผิดหวังที่ได้ชิมอาหารอร่อย ต้นกำเนิด กุ้งเผากาฬสินธุ์ หรือ กาฬสินธุ์กุ้งเผา
ตามเเต่จะเรียก ที่หลายๆร้านตามจังหวัดต่างๆมักจะติดป้ายไว้หน้าร้านหรือข้างทาง ที่นี่คือที่มา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความรีวิว “เเนะนำที่กินหมู่บ้านเน็ตประชารัฐ”
จะเป็นประโยชน์แก่เด็กเเละเยาวชน รวมไปถึงผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมหมู่บ้านเน็ตประชารัฐ
โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ อาจไม่จำเป็นจะต้องมีกล้องดิจิตอล dslrเเพงๆ ก็สามารถถ่ายภาพเขียนเเละรีวิวบทความได้
การเดินทาง จากตัวจังหวัดอุดรธานี มาสะะพานเทพสุดา ประมาณ 125 กิโลเมตร การคมนาคมสะดวกใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนถ้ามากจากทางตัวจังหวัดขอนแก่น
ประมาณ 100 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกเช่นกัน ไม่ยากตามพิกัดที่ปักหมุดไว้เลยครับ
*การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี และเหมาะสม (Good Agriculture Practices เรียกย่อๆว่า GAP)
บทความและภาพ โดย นายพงศ์วุฒิ เวชบุตร ผู้ขับเคลื่อนศูนย์ดิจิทัลชุมชนอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี
(ส่งประกวดในกิจกรรมแนะนำที่กินหมู่บ้านเน็ตประชารัฐ)