ฉลากคิดก่อน “คลิก” ซื้อของออนไลน์
03 ส.ค. 2564 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม1. ดูชื่อ-นามสกุลของเจ้าของร้าน ส่วนใหญ่มักเป็นชื่อ และเลขบัญชีธนาคารที่เราต้องโอนเงินไป ลองนำชื่อไปค้นหาบนอินเทอร์เน็ตว่ามีประวัติการโกงหรือไม่
2. ดูการอัปเดต และการเพิ่มข้อมูลต่างๆ ในเว็บ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร โปรโมชัน สินค้าใหม่ การตอบคำถามลูกค้า เพราะสะท้อนถึงความใส่ใจของร้าน และวางใจได้ว่าไม่ใช่หน้าร้านเลื่อนลอย
3. เช็กชื่อของเว็บไซต์ว่าจดนานหรือยัง หากเป็น .com เช็กได้ที่เว็บไซตื https://dawhois.com ถ้าลงท้ายด้วย .th เช็กได้ที่ https://www.thnic.co.th อย่างน้อยน่าจะ 5-6 เดือนขึ้นไป จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
4. ดูการพูดคุยผ่านเว็บบอร์ดและโซเชียลต่าง ๆ ว่ามีลูกค้าไปให้คอมเมนต์หรือแนะนำในที่อื่นบ้างหรือไม่ และร้านนั้น ๆ ได้เข้าไปตอบคำถามหรือดูแลลูกค้าตรงจุดนั้นอย่างไร
5. มีเบอร์ติดต่อ และติดต่อได้จริง ยิ่งเป็นเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่ามีหลักแหล่งที่แน่นอน และน่าเชื่อถือมากกว่า และเว็บไซต์ต้องมีที่อยู่แสดงชัดเจน
6. อย่าซื้อของจำนวนเงินมาก ๆ ในช่วงแรก โดยเฉพาะกับร้านที่ไม่เคยซื้อ และต้องโอนเงินก่อนได้รับสินค้า โดยไม่มีวิธีการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ
7. สังเกตการแสดงรายละเอียดของร้านค้า ที่ตรงหน้าข้อมูลเกี่ยวกับ ที่แสดงความเป็นมาของร้าน ประวัติการทำธุรกิจ เครื่องหมายรับรอง หรือรางวัลการันตี
8. เช็กเครื่องหมายรับรอง เช่น trustmark ของรัฐ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เชื่อถือได้ เช่น DBD Verified
9. อย่ากระโจนใส่ของที่ถูกมาก ๆ ซึ่งเป็นของที่เรากำลังมองหาพอดี ควรตรวจสอบผู้ขาย และประวัติเว็บไซต์ก่อน เพราะผู้ไม่หวังดีมักใช้วิธีนี้ล่อเงินในกระเป๋าเรา
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
#ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter