เตือนสายกางเต้นท์สัมผัสอากาศหนาวในป่าเขา ระวังตัวไรอ่อนกัด โรคไข้รากสาดใหญ่
24 พ.ย. 2564 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเตือนสายกางเต้นท์สัมผัสอากาศหนาวในป่าเขา ระวังตัวไรอ่อนกัด โรคไข้รากสาดใหญ่
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะป่าเขาและกางเต็นท์นอนเพื่อชมหมอกหรือสัมผัสอากาศหนาว ทำให้เสี่ยงที่จะถูกตัวไรอ่อนที่อาศัยอยู่ในป่ากัด ซึ่งอาจติดเชื้อและป่วยเป็นโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus) หรือโรคไข้รากสาดใหญ่ได้
โรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มริกเก็ตเซีย (Rickettsia) มีตัวไรอ่อนเป็นพาหะ อาศัยอยู่ตามกอไม้กอหญ้าใกล้กับพื้นดิน ไรอ่อนจะไต่ไปตามยอดหญ้าแล้วกระโดดเกาะตามเสื้อผ้าของคนและกัดผิวหนังที่สัมผัสกับเสื้อผ้า ส่วนใหญ่บริเวณที่ถูกกัด คือ รักแร้ ขาหนีบ รอบเอว หากถูกตัวไรอ่อนที่มีเชื้อกัดประมาณ 10 - 12 วัน จะมีอาการ ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น ไอ ตาแดง คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย และบริเวณที่ถูกกัดอาจจะมีผื่นแดงขนาดเล็กค่อยๆ นูนหรือใหญ่ขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจหายได้เอง แต่บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
สำหรับประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวตั้งแคมป์กางเต็นท์นอนในป่า หรือไปทำมาหากินในพื้นที่เกษตรกรรม ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด ทายากันยุง ส่วนที่อยู่นอกร่มผ้าให้ทาโลชั่นกันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET หรือใช้สมุนไพรทากันยุง จะสามารถป้องกันตัวไรอ่อนกัดได้เช่นกัน หลังออกจากป่าให้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย สระผม และนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มาซักให้สะอาดด้วยผงซักฟอกเข้มข้น
หากมีอาการไข้และอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเข้าป่าให้แพทย์ทราบ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์