นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เผยถึงแผนปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2563 ประกอบด้วย 4 แผนหลักคือ

• แผนบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า (ลดความหนาแน่นของหมอกควันและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้โดยส่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงไปยังภาคเหนือและภาคใต้
• แผนการยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ (บรรเทาและลดความเสียหายจากการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่การเกษตร) โดยส่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงไปยังภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
• แผนการป้องกันและแก้ไขภัยแล้ง (สร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้และเพิ่มปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เกษตรกรรม โดยส่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงไปยังทุกภูมิภาค
• แผนการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ (เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสำรองไว้เป็นน้ำต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้ง) โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค

กรมฝนหลวง ได้เตรียมเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ แก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ค่าฝุ่นละอองPM 2.5 และยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ ขยับเวลาเร็วขึ้นจากเดิมคือ วันที่ 1 มีนาคมของทุกปี ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมบุคลากรทางการบิน 72 นาย อากาศยานของกรมฝนหลวงฯ 32 ลำ ได้แก่ CN 1 ลำ CASA 11 ลำ / CARAVAN 11 ลำ / Super King Air 2 ลำ / HELICOPTER 7 ลำ เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวง สามารถคลี่คลายปัญหาภัยแล้ง ในทั่วทุกพื้นที่ของประเทศและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อพี่น้องประชาชน

ที่มา: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ภาพ: posttoday