สืบสานสัมพันธ์ มิตรภาพแน่นแฟ้น

22 พ.ย. 2562 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สืบสานสัมพันธ์ มิตรภาพแน่นแฟ้น

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส เสด็จเข้าเฝ้าเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง ที่แสดงถึงน้ำใจไมตรีระหว่างศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย ที่สืบเนื่องกันมาอย่างแน่นแฟ้น และเนิ่นนานนับแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

การพบกันครั้งนี้ แสดงถึงความสำคัญในการสร้างมิตรภาพระหว่างศาสนา เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของสังคม

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพรในโอกาสที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเข้าเฝ้า ยังพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ว่าคณะสงฆ์ไทยขอถวายอนุโมทนาในโอกาสที่พระองค์เสด็จครั้งนี้ เป็นศุภนิมิตแห่งน้ำใจไมตรีระหว่างศาสนาที่มีมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา 

เมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ์ เคยเสด็จรับสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ยังพระอุโบสถแห่งนี้ โดยทั้งสองพระองค์ทรงปราศรัยแสดงพระอัธยาศัยอันงามต่อกันบนพื้นฐานแห่งพระเมตตาจิตในฐานะนักบุญผู้ประเสริฐ ปรารถนาดีอย่างจริงใจไปสู่ทุกชีวิตเป็นอุดมการณ์ร่วมกันอย่างสร้างความประทับใจไม่เสื่อมคลาย

การเสด็จครั้งนี้ถือว่าเป็นการเยือนของมิตรแท้ แม้ระยะทางห่างกันแต่ทรงพระอุตสาหะตรากตรำพระวรกายเสด็จมาเยือนด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยมิตรภาพ 

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ทรงมีพระดำรัสถวายพระพรตอบว่า การเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชของไทย ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณค่าอันประเสริฐ ได้เรียนรู้คำสอนในพระพุทธศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือโดยให้ความสำคัญกับความเกื้อกูลเคารพซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานความตั้งมั่นแห่งจิต ปล่อยวาง ความเพียรและความมีวินัย ทำให้แผ่นดินนี้เป็นที่รู้จักในนามของประเทศแห่งรอยยิ้ม 

การพบกันครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความชื่นชม และยอมรับซึ่งกันและกัน เป็นการเจริญรอยตามพร้อมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาให้แน่นแฟ้น และกล่าวถึงการรับมอบบทแปลพระคัมภีร์ที่คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเพื่อเก็บรักษาในหอสมุดวาติกัน

พระองค์ทรงย้ำถึงการเสริมสร้างให้เกิดการเสวนาวิชาการระหว่างศาสนาเพื่อให้เกิดสันติภาพและสันติสุขของประชาชนทุกศาสนาในไทยโดยเฉพาะการแสดงความเมตตาระหว่างกัน

พระองค์ทรงชื่นชมประเทศไทยที่พยายามแก้ปัญหาความรุนแรง การเอารัดเอาเปรียบกับเด็กและสตรี เพราะ คนกลุ่มนี้ต้องการความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความรักจากสังคม ดังนั้น ทุกๆคน ควรช่วยกันเอาชนะความไม่เท่าเทียมกันในสังคม

สังคมต้องมี “ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” เพื่อช่วยกันเอาชนะความไม่เท่าเทียม ทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา อาชีพการงาน และความช่วยเหลือด้านสุขภาพ เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สมบูรณ์และยั่งยืน

ที่มา: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ขอบคุณภาพ: วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม Wat Rajabopit

 

 

 

ดาวโหลดแอปพลิเคชัน เพื่อสะสมแต้มแลกของรางวัลแลกเลยไม่ต้องลุ้น
Android
IOS

รูปภาพเพิ่มเติม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ลมหนาวระลอกใหม่มาแน่! 20 - 25 ธ.ค. นี้ ทั่วไทยอุณหภูมิลดลง 2 - 8 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยช่วงวันที่ 20 - 25 ธ.ค. 66 มวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนดูแลรักษ

อ่านบทความนี้

ย้ำเตือนประชาชน อย่าหลงกลตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ พบมูลค่าความเสียหายกว่า 50,000 ล้านบาท

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกรัฐบาล ย้ำเตือนประชาชน ตั้งสติ อย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ที่ใช้อุบายหลอกลวง สร้างความน่าเชื่อถือในหลายรูปแบบ แม้รัฐบาลได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่า

อ่านบทความนี้

เชิญมาเที่ยวงาน "เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2566" น้ำพระทัยสองพระมิ่งขวัญเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เปี่ยมล้นพระเมตตาผู้ประสบอุทกภัย

งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2566 สถานที่ใหม่ เดินทางสะดวกกว่าเดิม เดินทางมาเที่ยวงานสะดวกมาก ทั้งรถสาธารณะ และรถส่วนตัว ที่จอดรถกว้างขวาง ภายในงานติดแอร์ตลอดทั้งงาน ไม่ต้องกลัวร้อน กลัวฝน   งานเริ่มแ

อ่านบทความนี้