รมว.ศธ.เปิดเวิร์คช็อป CONNEXT EDรวมพลังภาคประชาสังคม และ33องค์กรภาคเอกชน ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน
19 พ.ย. 2562 / กระทรวงศึกษาธิการ(18 พ.ย. 62) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ประจำปี 2562 (CONNEXT ED Workshop 2019) พร้อมทั้งกล่าวสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้นำรุ่นใหม่สู่การขับเคลื่อนยกระดับการศึกษาไทย (School Partner) กว่า 900 คน ก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานและร่วมผลักดันยุทธศาสตร์การดำเนินงานสู่โรงเรียนประชารัฐ 4,781 แห่งทั่วประเทศ โดยมีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชน ตลอดจนผู้แทนจากภาคประชาสัมคม และผู้แทน 33 องค์กรภาคเอกชนเข้าร่วม ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ประเด็นสำคัญ
– โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED (ชื่อเดิม สานพลังประชารัฐ) เป็นการผนึกกำลังสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาของ 3 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
– ก่อตั้งโดย 12 บริษัท ปัจจุบันมี 33 บริษัทเข้าร่วมสนับสนุน
– เพื่อยกระดับการศึกษาไทย สู่การสร้าง “เด็กดี เด็กเก่ง” ของประเทศอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาศักยภาพคน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศ
– มีแผนจะจัดทำสมุดพกดิจิทัล เพื่อแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนรายบุคคล
รมว.ศธ. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐ กล่าวตอนหนึ่งว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โครงการ สานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED อันเกิดจากกลไกความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ได้สร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาได้อย่างลงตัวและเห็นเป็นรูปธรรมต่อเนื่องมากว่า 3 ปี
ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีความมุ่งมั่น มีจิตสาธารณะที่จะแบ่งปัน ทั้งด้านบุคลากร ทรัพยากร และองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้เท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการโรงเรียนประชารัฐ คณะครู และผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) และผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (ICT Talent) ของภาคเอกชน เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ รวมถึงการใช้สื่อและเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษซึ่งมีความสำคัญมากในโลกปัจจุบัน โดยกระทรวงศึกษาธิการจะนำข้อมูลสถานศึกษาที่โครงการฯ ได้รวบรวมไว้ในระบบ School Management มาวางแผนพัฒนา รวมถึงเดินหน้าผลักดันระบบอินทอร์เน็ตให้ครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศ การพัฒนาและปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน
มั่นใจว่า ผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) จะเป็นผู้นำที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริง ส่งผลให้นักเรียนเติบโตเป็นกำลังและอนาคตของชาติต่อไป
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ริเริ่มก่อตั้งขึ้นโดย 12 องค์กรเอกชนชั้นนำของไทย ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- กลุ่มเซ็นทรัล
- บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย
- บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
- กลุ่มมิตรผล (กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย พลังงาน และธุรกิจใหม่)
- บมจ.ปตท.
- บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ
- บมจ.ไทย ยูเนี่ยนกรุ๊ป
- บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น
- บมจ.ซีพีออลล์
โดยในปีที่ผ่านมา มีเครือข่ายพันธมิตรใหม่เข้าร่วมโครงการอีก 21 องค์กร ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวทำให้เกิดการสนับสนุนและพัฒนาในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การสนับสนุนด้านบุคลากรและงบประมาณดำเนินโครงการตามบริบทของโรงเรียน, การสนับสนุนด้านองค์ความรู้และการอบรมพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา, การสนับสนุนด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการสับสนุนด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ภาคเอกชนพร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ให้บรรลุตามเป้าหมายในการยกระดับการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน และมีแผนจะจัดทำสมุดพกดิจิทัลเพื่อให้สามารถประเมินผล และแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนรายบุคคล และเตรียมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ตลอดจนจัดทำระบบบริจาคออนไลน์เพื่อระดมทุนสนับสนุนด้านการศึกษา
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวไกลและเกิดความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง