การให้เงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี
14 พ.ย. 2562 / สำนักนายกรัฐมนตรีการให้เงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยได้เกิดเหตุพายุโซนร้อน “โพดุล” และอิทธิพลพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร อุดรธานี สระแก้ว ลำปาง เลย สุโขทัย ศรีสะเกษ และสกลนคร ทำให้ประชาชนได้รับได้รับผลกระทบบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย รวมทั้งมีประชาชนเสียชีวิต ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงมีบัญชาให้ภาครัฐเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลได้มีกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุสาธารณภัยต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
สำหรับการช่วยเหลือเยียวยา คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) เป็นประธาน ในคราวประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๒ ได้กำหนดกรอบแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวตามเกณฑ์ ดังนี้
๑. มอบเงินค่าจัดการศพ รายละ ๕๐,๐๐๐ บาท
๒. มอบเงินค่าเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ ๓๐,๐๐๐ บาท
กรณีผู้เสียชีวิต มีบุตรอายุไม่เกิน ๒๕ ปีบริบูรณ์ ให้เพิ่มขึ้นอีกครอบครัวละ ๕๐,๐๐๐ บาท
๓. มอบเงินค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย
- เสียหายทั้งหลัง (เสียหายเกิน ๗๐ %) ไม่เกินหลังละ ๒๒๐,๐๐๐ - ๒๓๐,๐๐๐ บาท
- เสียหายมาก (เสียหาย ๓๐ % - ๗๐ %) ไม่เกินหลังละ ๗๐,๐๐๐ บาท
- เสียหายน้อย (เสียหายน้อยกว่า ๓๐ %) ไม่เกินหลังละ ๑๕,๐๐๐ บาท
๔. ค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัว เฉพาะที่บ้านเรือนเสียหาย ทั้งหลัง และเสียหายมาก ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท
นายธีรภัทรฯ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้ดำเนินการมอบเงินจากกองทุนฯ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยไปแล้ว รวม ๔,๙๔๕,๕๗๒.๕๐ บาท ดังนี้
๑. มอบเงินเพื่อจ่ายเงินค่าจัดการศพ ๓๙ ราย ๆ ละ ๕๐,๐๐๐ บาท เป็นเงินจำนวน ๑,๙๕๐,๐๐๐ บาท
๒. มอบเงินเพื่อจ่ายเป็นเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน ๓๙ ราย รายละ ๓๐,๐๐๐ บาท เป็นเงินจำนวน ๑,๑๗๐,๐๐๐ บาท
๓. มอบเงินเพื่อจ่ายเป็นเงินเพิ่มเงินทุนเลี้ยงชีพ กรณีผู้เสียชีวิตมีบุตรอายุไม่เกิน ๒๕ ปีบริบูรณ์ จำนวน ๘ ราย รายละ ๕๐,๐๐๐ บาท เป็นจำนวนเงิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท
๔. มอบเงินค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนเสียหาย ให้จังหวัดเลย กระบี่ สุโขทัย ตราด และร้อยเอ็ด รวม ๕ จังหวัด ซึ่งมีบ้านเรือนเสียหายจำนวน ๑๓ หลัง เป็นเงิน ๑,๒๓๐,๕๗๒.๕๐ บาท
- เสียหายทั้งหลัง จำนวน ๗ หลัง เป็นเงิน ๑,๐๒๑,๙๐๐ บาท
- เสียหายมาก จำนวน ๕ หลัง เป็นเงิน ๒๐๖,๑๗๒.๕๐ บาท
- เสียหายน้อย จำนวน ๑ หลัง เป็นเงิน ๒,๕๐๐ บาท
๕. มอบเงินค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัว จำนวน ๓๙ หลัง เป็นเงิน ๑๙๕,๐๐๐ บาท
สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ที่ประสบอุทกภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ในระหว่างสำรวจและประสานงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดการจ่ายเงินให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายโดยเร็วต่อไป
////////////
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กองกลาง
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี