แม่ค้าออนไลน์หาลูกค้าจากไหนกันบ้าง?
03 ก.ย. 2564 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมการขายของ ได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราทุกคนไปแล้ว ซึ่งใคร ๆ ก็เป็น แม่ค้าออนไลน์ได้ และบางคนก็ได้ยึดการขายของออนไลน์เป็นอาชีพหลัก สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเริ่มต้นขายของออนไลน์นั้นมีแหล่งซื้อขายที่แม่ค้าออนไลน์ใช้ค้นหาลูกค้ามีอยู่ 5 แพลตฟอร์มหลักที่คนทั่วโลกนิยมใช้กัน
- Facebook
แพลตฟอร์มเดียวที่ดึงดูดคนทุกวัยมาเปิดบัญชีใช้งาน และเป็นแหล่งซื้อขายบนโลกออนไลน์แรกที่ทุกคนนึกถึง ซึ่งวิธีการหาลูกค้าใน Facebook ก็สามารถทำได้ง่าย
1. เริ่มต้นจากการเปิดเพจเป็นร้านของตนเองก่อน โดยตั้งชื่อร้านให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้า
2. ตั้งกลุ่มขึ้นมาเองหรือเข้าไปที่กลุ่มซื้อขายที่มีลูกค้าเป้าหมายของเราอยู่ โดยการโพสต์สินค้าลงในกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ถ้าเพจเฟซบุ๊กของเรายังมีผู้ติดตามจำนวนน้อย ก็โพสต์สินค้าของเราเพื่อชักชวนให้ลูกค้าให้มากดไลก์เพจหรือติดตามเพจของเราได้ด้วย หรือการไลฟ์สด (Live) เพื่อขายของให้กับคนที่ชื่นชอบสินค้าของเรา โดยจะต้องเลือกช่วงเวลาการไลฟ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มคนที่เราต้องการขาย
- Youtube :
แพลตฟอร์มที่เป็นพื้นที่สำหรับการหาลูกค้าที่ชื่นชอบการดูคอนเทนต์จากวิดีโอเป็นหลัก การอัปวิดีโอลง Youtubeนอกจากจะได้ฐานลูกค้าในแพลตฟอร์มนั้นแล้ว ยังสามารถนำลิงก์วิดีโอของ Youtubeไปโพสต์ที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้เช่นกัน และทริคขายของสำหรับการหาลูกค้าใน Youtubeนั้น เราต้องทำคอนเทนต์ที่ให้ประโยชน์กับลูกค้าเป็นหลัก เพื่อดึงพวกเขาเข้าไปติดตาม Facebook และ Instagram ด้วย
- Line Official Account :
หลายต่อหลายครั้งที่มีลูกค้าติดต่อเข้ามาสอบถามสินค้าหรือได้ตัดสินใจซื้อแล้วผ่านทาง Facebook และ Instagram แต่เราไม่สามารถทำให้เขากลับมาซื้อซ้ำได้ และไม่สามารถเก็บลูกค้าคนนั้นไว้ได้ จึงทำให้แม่ค้าทั้งหลายเหนื่อยกับการที่ต้องคอยหาลูกค้าใหม่อยู่เสมอ ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเราเลือกใช้ Line Official Account หรือ Line OA เป็นช่องทางหลักในการติดต่อซื้อขาย และเป็นผู้ช่วยในการเก็บฐานข้อมูลลูกค้าของเราทั้งเก่าและใหม่ เพราะ Line เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการสื่อสารที่คนไทยนิยมใช้กัน
- Instagram :
โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่องการขายของอยู่แล้ว เพราะถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบถ่ายรูปและชอบดูภาพ ถ้าเรามีสินค้าอยู่แล้ว สามารถนำภาพถ่ายสินค้ามาลงขายที่ Instagram ได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยตั้งชื่อร้านให้เหมือนกับชื่อร้านใน Facebook และถ้าอยากให้ร้านใน Instagram ดูน่าสนใจและดูพรีเมี่ยม เราต้องมีทักษะในการถ่ายภาพสินค้าให้ออกมาดูดี นอกจากนี้การโพสต์ขายสินค้าก็ควรใส่ # (Hashtag)เพื่อระบุความเกี่ยวข้องกับสินค้าไว้ด้วย เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะค้นหาสินค้ากันด้วย # (Hashtag)
- Twitter :
เแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ที่เน้นลูกค้าที่ชอบอ่านข้อความสั้น ๆ และโดนใจ และทริคในการโปรโมทร้านและขายของใน Twitter คือการติด Hashtags ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา เพราะลูกค้าชอบค้นหาความสนใจจาก Hashtag หรือถ้าเราเขียน caption ก็ต้องเขียนให้สั้นและเขียนกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการคลิก
ที่มา : เพจ NTPLC