นายสุทธิพร กาฬสุวรรณ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวและกลุ่มชาวนาภาคใต้ เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันราคาข้าวเปลือก กข.ตกลงมา 20-30% อยู่ที่ 7,600-7,800 บาท/ตัน โดยมีหลายปัจจัยที่เป็นไปตามกลไกของตลาดโลก คือ 1.ข้าวเปลือกอินเดียราคาถูกเข้าไปตีตลาด 2.ค่าเรือขนส่งไปยังต่างประเทศขยับราคาขึ้นสูงถึง 3 เท่าตัวจากปกติ 3.ข้าวไทยได้รับความเสียหายจากฝนตกและน้ำท่วม

จากปัจจัยดังกล่าวชาวนาในภาคใต้ของประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะได้ทำการเก็บเกี่ยวจนหมดฤดูกาลแล้ว ทั้งยังมีราคาอยู่ในเกณฑ์ดีประมาณ 9,800 บาท/ตัน แต่ต้องจับตาดูสถานการณ์ต่อไปในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผลผลิตข้าวพื้นเมืองจะออกสู่ตลาด เช่น ข้าวเฉี้ยง ข้าวสังข์หยด ข้าวเล็บนก ฯลฯ จะออกสู่ตลาด

ซึ่งข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองจะราคาดีกว่าข้าวพันธุ์ กข.ที่จะเริ่มปลูกในฤดูใหม่อีกครั้งในเดือนมกราคม-มีนาคม และในปี 2565 ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาข้าวจะเป็นอย่างไง เพราะราคาผันผวนมากไม่ต่างจากราคาทองคำ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของตลาดโลก

“สำหรับโรงสีข้าวได้รับผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำทำให้ขาดทุนมานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งซื้อข้าวมาในราคาที่สูง แต่กลับขายได้ราคาต่ำ บางฤดูกาลซื้อมาประมาณ 9,800 บาท/ตัน แต่พอขายออกได้ราคา 8,700 บาท/ตัน ต้องขาดทุนกว่า 1,000 ตัน หากมีสต๊อกประมาณ 300 ตัน จะขาดทุนประมาณกว่า 300,000 บาท”

ด้านนายสุทธิชัย กาฬสุวรรณ นายกสมาคมผู้ผลิตและค้าข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กล่าวว่า สำหรับผลผลิตข้าวในจังหวัดพัทลุงตั้งแต่ข้าวสังข์หยดพัทลุง ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเฉี้ยง ข้าวเล็บนก ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้าวราคาตกต่ำ แต่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องส่งไปยังตลาดต่างประเทศ

แต่ปัจจุบันข้าวสังข์หยดพัทลุงยังคงมีราคาอยู่ที่ 22,000 บาท/ตัน ข้าวเฉี้ยงราคา 9,000 บาท-10,000 บาท/ตัน ส่วนข้าวเล็บนก ราคาใกล้เคียงกันกับข้าว กข.5 ประมาณ 8,000-9,000 บาท/ตัน

ในภาพรวมของจังหวัดพัทลุงมีการปลูกข้าวอยู่ประมาณ 120,000 ไร่ โดยมีแนวโน้มว่าปี 2565 จะมีพื้นที่ปลูกข้าวเหลืออยู่เพียงประมาณ 90,000 ไร่ เพราะเกษตรกรเริ่มจะหันไปปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูล
https://www.prachachat.net/local-economy/news-801366

 ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999

 ช่องทำเกษตรอินทรีย์  https://bit.ly/เกษตรเพียวเพียว

ที่มา : เพจเกษตรนิวส์ ข่าวเกษตร