ก.เกษตรฯ ผนึกความร่วมมือจีน เร่งเครื่องโมเดล “เกษตรผลิต-พาณิชย์ตลาด”
10 มี.ค. 2564 / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ถึงการหารือจากที่นายหวัง ลี่ผิง (Mr.Wang Liping) อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย
และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าเป็นการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประเด็นความร่วมมือระหว่างไทย-จีน อาทิ ด้านการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรและผู้ประกอบการ, การพัฒนาเกษตรอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่, การพัฒนาเส้นทางขนส่งสินค้าทางรถไฟเชื่อมไทย-ลาว-จีน และไทย-เวียดนาม-จีน, การขยายความร่วมมือด้านตลาดอี-คอมเมิร์ซในจีนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ทั้งความร่วมมือในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จีนเป็นพันธมิตรและคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและผลไม้ไทย โดยในปี 2563 ไทยส่งออกไปจีนเป็นมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งปัจจัยความสำเร็จที่ผ่านมา คือ ความร่วมมืออย่างดียิ่งระหว่างไทยกับจีน และการทำงานภายใต้โมเดล “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบายร่วมระหว่างนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนการพัฒนาระบบผลิตจนถึงผู้บริโภค ด้วยนโยบาย “เกษตรปลอดภัย อาหารปลอดภัย” สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้วยมาตรฐาน GAP, GMP, Organic, Halal, Q เป็นต้น รวมทั้งคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ซึ่งมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นประธาน ได้กำหนดแนวทางบริหารจัดการผลไม้ปี 2564-2566 เป็นกรอบในการทำงาน เน้นเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อผู้บริโภคได้รับประทานผลไม้ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และรสชาติอร่อย
รวมทั้งการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพผลไม้ไทย อาทิ ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ จากฟาร์มถึงผู้บริโภค การส่งเสริมการตลาดทั้ง
ออฟไลน์และออนไลน์ การพัฒนาการอำนวยความสะดวก บริเวณด่านส่งออก 4 ด่าน ได้แก่ ด่านโมฮ่าน ด่านโหยวอี้กวน ด่านตงชิง และด่านผิงเสียง ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยคณะกรรมการโลจิสติกส์เกษตร ที่มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน กำลังจัดทำแผนพัฒนาเส้นทางขนส่งทางรถไฟ โดยจะเชื่อมระหว่างไทย-ลาว-จีน และไทย-เวียดนาม-จีน
สำหรับสถิติการส่งออกผลไม้สดไปจีน ปี 2563 ดังนี้ ปริมาณรวม 1,624,000 ตัน มูลค่า 102,800 ล้านบาท โดยผลไม้ 5 อันดับแรก คือ
1. ทุเรียน 620,000 ตัน มูลค่า 66,000 ล้านบาท
2. ลำไย 378,000 ตัน มูลค่า 14,400 ล้านบาท
3. มังคุด 287,000 ตัน มูลค่า 15,700 ล้านบาท
4. มะพร้าวอ่อน 270,000 ตัน มูลค่า 4,900 ล้านบาท
5. ขนุน 22,700 ตัน มูลค่า 400 ล้านบาท
ในส่วนของทุเรียนเป็นผลไม้สดที่จีนนำเข้ามากที่สุด คิดเป็น23% ของการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศทั้งหมดของจีนโดยไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่จีนอนุญาตให้นำเข้าผลทุเรียนสด
“ประเทศไทยสามารถขยายการส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรผ่านด่านตงซิงและด่านผิงเสียงที่เปิดใหม่ได้ ช่วยลดปัญหาและอุปสรรคการขนส่งสินค้าไปจีน และช่วยขยายความร่วมมือการค้าของทั้งสองประเทศ หากสามารถเปิดในรูปแบบ Green lane ตรวจปล่อยสินค้าบริเวณด่านการค้าพิเศษและเขตฟรีโซนหนานหนิง จะทำให้การขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคได้รับประทานผลไม้ที่มีคุณภาพ จึงได้ขอให้ฝ่ายจีนติดตามความก้าวหน้าการอนุญาตนำเข้าผลไม้ไทยผ่านด่านใหม่ หากเปิดดำเนินการได้โดยเร็ว จะลดความแออัดบริเวณด่านโหย่วอี้กวนในช่วงฤดูกาลการส่งออกทุเรียนของปีนี้”
ในตอนท้าย นายอลงกรณ์ ได้กล่าวขอบคุณฝ่ายจีนที่ร่วมพูดคุย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จะได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายต่อไป
ที่มา : https://kaset1009.com/th